ศาลอุทธรณ์ มีคำพิพากษาคดี รถกระบะรพ.สต.ชนพ่อลูกที่ขอนแก่น จนลูกชาย 5 ขวบต้องพิการสู้คดีจนแทบหมดตัว สุดท้ายศาลพิพากษาให้กระทรวงสาธารณสุข กับสำนักปลัดกระทรวงฯ ร่วมกันชดใช้ 2.8 ล้าน
ไทยรัฐรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. ของวันที่ 22 พ.ค. ที่ห้องพิจารณาคดี 3 ศาลจังหวัดชุมแพ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ผู้พิพากษาได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีนายศราวุฒิ เจิมขุนทด อายุ 32 ปี น.ส.ปวีณา หาทรัพย์ อายุ 32 ปี สองสามีภรรยา และ ด.ช.พงศ์กร เจิมขุนทด หรือน้องปาล์ม อายุ 5 ปี บุตรชาย ร่วมเป็นโจทก์ฟ้องกระทรวงสาธารณสุข จำเลยที่ 1 สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข จำเลยที่ 2 ให้ชดใช้ค่าเสียหายกรณีรถกระบะของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชน ต.บ้านใหม่ อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น พนักงานขับรถขับไปชนรถจักรยานยนต์ของนายศราวุฒิ เจิมขุนทด ทำให้นายศราวุฒิ ได้รับบาดเจ็บ ด.ช.พงศกร บุตรชายอาการสาหัสกลายเป็นผู้พิการเดินไม่ได้ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 ก.ค.2558
คดีนี้ ศาลชั้นต้นได้พิจารณาให้จำเลยทั้งสองชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 2,900,000 บาท (สองล้านเก้าแสนบาท) ฝ่ายจำเลยได้ขอไกล่เกลี่ยขอชดใช้ 900,000 บาท (เก้าแสนบาท) พร้อมยื่นอุทธรณ์ หลังศาลอุทธรณ์พิจารณาคดีส่งสำนวนคำพิพากษามายังศาล จ.ชุมแพ พิพากษาให้จำเลยทั้งสอง ได้แก่ กระทรวงสาธารณสุข สำนักปลัดกระทรวงสาธารณสุข ชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ทั้งสามเป็นเงิน 2,834,800 บาท (สองล้านแปดแสนสามหมื่นสี่พันแปดร้อยบาท) พร้อมอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่เกิดเหตุคือวันที่ 28 ก.ค.2558
หลังเสร็จสิ้นการอ่านคำพิพากษา นายศราวุฒิ เจิมขุนทด ผู้เสียหายกล่าวว่า พอใจกับคำพิพากษา ที่ศาลได้เมตตา ตนและพร้อมครอบครัวต่อสู้คดีมาเกือบ 5 ปี จนแทบสิ้นเนื้อประดาตัว เปรียบเหมือนกับมดไปสู้กับยักษ์ จึงได้เข้าร้องทุกข์ต่อสำนักงานอัยการสูงสุด ได้ให้ความช่วยเหลือเป็นที่ปรึกษาคดี พร้อมแนะนำหน่วยงานสงเคราะห์ด้านคดีความ จัดหาทนายอาสาให้ หากเป็นไปได้ตนอยากให้ลูกชายกลับมาเดินได้ตามปกติ แต่ถึงขนาดนี้แล้วคงหมดหวังจึงต้องพึ่งกระบวนการยุติธรรม นายศราวุฒิกล่าวในที่สุด
Commentaires