บ่มีแต่บ้านเฮา ! แอคติวิสต์เวียดนามก็โดนทำร้ายร่างกายบ่อยครั้ง

เมื่อเดือนมิถุนายน 2562 กลุ่มนักกิจกรรมและนักสิทธิมนุษยชนชาวเวียดนามเปิดเผยว่า การออกมาเคลื่อนไหวทางสังคมในประเด็นต่างๆ จะมีอีกตัวละครเข้ามาเกี่ยวข้องนั่นคือ “กลุ่มผู้ใช้ความรุนแรง” เพื่อก่อกวนนักเคลื่อนไหวทางสังคม บล็อกเกอร์ ผู้สื่อข่าว และนักสิ่งแวดล้อมโดยมีข้อสังเกตอันเป็นไปได้ว่า คนกลุ่มนี้ได้รับการจ้างวานจากผู้มีอำนาจให้มาก่อกวนการออกมาเคลื่อนไหวของนักกิจกรรม

อย่างกรณีของ Nguyễn Thanh Hà นักกิจกรรมเคลื่อนไหวเกี่ยวกับข้อพิพาทที่ดิน เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มกิจกรรม “Rescue the Petitioners” เล่าว่า ในช่วงปี 2558 เธอและเพื่อนร่วมงานถูกกลุ่มอันธพาลติดตามและทำร้ายร่างกายขณะเดินทางกลับบ้าน หลังจากที่พวกเธอออกมาเคลื่อนไหวประเด็นที่ดิน

เช่นเดียวกับ Cấn Thị Thêu นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิที่ดินที่ถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 20 เดือนในปี 2559 ข้อหาก่อความวุ่นวายในพื้นที่สาธารณะ หลังจากที่เธอเป็นตัวตั้งตัวตี รวบรวมเอกสารและระดมพลเพื่อขอค่าชดเชยและเรียกคืนที่ดินทำกิน/ที่อยู่อาศัยบริเวณชานเมืองฮานอยจากหน่วยงานรัฐ เธอตั้งข้อสังเกตว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจ้างวานให้กลุ่มอันธพาลมาใช้ความรุนแรงกับประชาชนที่เห็นต่าง

พร้อมเล่าเพิ่มเติมว่า คนกลุ่มนี้พกอาวุธเดินไปมาในที่สาธารณะอย่างอิสระ แม้ประชาชนจะร้องเรียนไปยังเจ้าหน้าที่รัฐ แต่กลับไม่ได้รับการตอบรับ และบางครั้งเจ้าหน้าที่รัฐกลับเป็นเบื้องหลังให้คนกลุ่มนี้ในศาลและให้การช่วยเหลือจากการถูกควบคุมตัวให้ไม่ต้องรับโทษ

ด้าน Vu Quoc Ngu ผู้อำนวยการองค์การด้านสิทธิมนุษยชนท้องถิ่น (Defend the Defenders: DTD) เล่าว่า นอกจากตำรวจจะว่าจ้างกลุ่มใช้ความรุนแรงมาเพื่อก่อกวนประชาชนที่เห็นต่างและนักกิจกรรมเคลื่อนไหวทางสังคมแล้ว บางครั้งยังแสร้งเป็นกลุ่มอันธพาลเสียเอง เพื่อให้พวกเขาสามารถใช้ความรุนแรง”นอกเครื่องแบบ”กับประชาชนได้ กล่าวคือแทนที่ตำรวจจะทำหน้าที่ตรวจตราความเรียบร้อย จับกุม และปราบปรามอาชญากร แต่พวกเขากลับทำได้เพียงปราบปรามประชาชนที่เห็นต่างและไม่มีสิทธิมีเสียงในสังคม

ล่าสุด Truong Min Huong นักกิจกรรมเคลื่อนไหวเรื่องที่ดินอีกคนหนึ่งเล่าว่า วันหนึ่งหลังจากนัดพบเพื่อพูดคุยกับเพื่อน ขณะขับรถจักรยานยนต์กลับบ้าน เห็นชาย 4 คนขับรถตามมา กระทั่งเขาหยุดรถใกล้บริเวณหน้าบ้าน ชายทั้ง 4 คนก็ทำทีเป็นขับรถมาชนให้จักรยานยนต์ของ Huong ล้มลง จากนั้นพวกเขาก็เอาหมวกกันน็อคตีไปที่ใบหน้าและหน้าอกของ Huong จนได้รับบาดเจ็บ

เหตุการณ์การว่าจ้างอันธพาลเพื่อมาก่อกวนนักกิจกรรมที่ออกมาเคลื่อนไหวทางสังคมข้างต้นนี้ ปรากฏในรายงานสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในเวียดนามที่จัดทำโดยฮิวแมนไรท์วอตช์ (Human Rights Watch: HRW) ระบุว่า สถานการณ์สิทธิมนุษยชนในเวียดนามย่ำแย่ลงอย่างมากในปี 2561 โดยมีสาเหตุสำคัญอย่างน้อย 3 ประการ ได้แก่ (1) หน่วยงานรัฐปล่อยให้อันธพาลเข้าโจมตีนักกิจกรรม (sanctioned thugs to attack rights defenders) (2) มีบทลงโทษผู้ที่คัดค้านหรือแสดงความไม่เห็นด้วยกับนโยบายของรัฐรุนแรงขึ้น และ (3) รัฐบาลอนุมัติกฎหมายที่เข้มงวดในการควบคุมการแสดงความเห็นของประชาชน

ปัจจุบันพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เป็นพรรคการเมืองเดียวในประเทศที่ผูกขาดอำนาจการบริหารงานที่สำคัญ รวมถึงการควบคุมการเคลื่อนไหวของคนกลุ่มต่างๆ ที่คาดว่าจะกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล เช่น การควบคุมจำกัดสิทธิขั้นพื้นฐานในการแสดงออกทางการเมืองหรือการชุมนุมสาธารณะ ที่ผ่านมา เมื่อเกิดการชุมชนในพื้นที่สาธารณะ ตำรวจก็มักจะใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมชนของประชาชนที่แสดงออกอย่างสันติอย่างบ่อยครั้ง

นักเคลื่อนไหวจำต้องเผชิญหน้ากับการถูกก่อกวนในรูปแบบซ้ำๆ การถูกสอดส่องตรวจตราจนขาดความเป็นส่วนตัว ถูกหน่วงเหนี่ยวหรือจำกัดบริเวณให้อยู่แต่ในบ้าน ไม่ให้ออกเดินทางไปไหน และที่สำคัญตำรวจกลับร่วมมือกับกลุ่มอันธพาลให้สามารถออกมาทำร้ายร่างกายนักเคลื่อนไหวโดยไม่ต้องรับโทษ

*ขอบคุณข้อมูลจาก rfa.org, thediplomat.com และ hrw.org

#TheIsaander #ข่าวต่างประเทศ #อาเซียน #เวียดนาม #ฮานอย #นักเคลื่อนไหวในเวียดนาม #ข้อพิพาทที่ดิน #ความโสมมของประชาคมอาเซียน #คนญวณ #อยู่กันเยอะพอสมควร #แถวอีสานฝั่งน้ำโขง #Isaander #ไม่ใช่ #Theisaanrecord #แต่ทำข่าวเรื่องหลักคือภาคอีสาน #เหมือนกัน #สำหรับผู้ใช้ภาษาอีสาน #สำหรับผู้ใช้ภาษาไทย #ภาษาอื่นๆ #จะพยายาม