ผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2562 จากกรณีอุบัติเหตุสุดสะเทือนขวัญเมื่อปี 2553 ที่ น.ส.แพรวา เทพหัสดิน ณ อยุธยา ขับรถเก๋งชนรถตู้โดยสารบนทางด่วนโทลล์เวย์ขาเข้า หน้าสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ จนเป็นเหตุทำให้ผู้โดยสารมากับรถตู้เสียชีวิต 9 ศพ จนถึงขณะนี้ผ่านไปนาน 9 ปีแล้ว และล่าสุดเมื่อเดือน พ.ค. 2562 ที่ผ่านมา ศาลได้มีคำพิพากษาให้จำเลยจ่ายเงินเยียวยาให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการเยียวยาแต่อย่างใดนั้น
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 1 หมู่ 13 ต.ห้วยหิน อ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.จันจิรา ซิมกระโทก หรือ “น้องป้าย” นักศึกษาคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุดังกล่าว ได้พบกับ นายสะโอด ซิมกระโทก อายุ 64 ปี และ นางปิยะวรรณ ซิมกระโทก อายุ 61 ปี อดีตข้าราชการครูเกษียณ ซึ่งเป็นพ่อและแม่ของ น.ส.จันจิรา หรือ “น้องป้าย” ที่เสียชีวิต
นายสะโอด ผู้เป็นพ่อ บอกว่า ตนมีลูกทั้งหมด 3 คน เป็นชาย 2 คน ส่วน “น้องป้าย” เป็นลูกสาวคนเล็ก ตอนที่น้องป้ายเสียชีวิตมีอายุ 22 ปี หากน้องยังมีชีวิตอยู่จะอายุ 31 ปี คงจะได้ทำงาน และอยู่ดูแลพ่อแม่ตามความฝันของน้อง และยอมรับว่าแม้เหตุการณ์ดังกล่าวจะผ่านไปนานถึง 9 ปีแล้ว ทั้งพ่อและแม่ก็ยังทำใจไม่ได้ โดยเฉพาะผู้เป็นแม่เวลาที่คิดถึงลูกจะเอารูปถ่ายของน้องมากอด ส่วนเรื่องคดีได้รับการช่วยเหลือจาก ม.ธรรมศาสตร์ ที่ติดต่อประสานงานและจัดหาทนายคอยช่วยเหลือมาตลอด
แต่สิ่งที่รู้สึกเสียใจคือตั้งแต่เกิดเรื่อง ทางครอบครัวของจำเลยไม่เคยมาแสดงความผิดชอบอะไรเลย โทรศัพท์มาแค่ครั้งเดียวบอกว่าจะโอนเงินมาช่วยงานศพน้อง 20,000 บาท แต่ตนไม่ได้สนใจว่าจะโอนมาหรือไม่โอนมาเพราะตอนนั้นเสียใจมากที่ต้องสูญเสียลูกสาวอันเป็นที่รักไป แต่หลังจากนั้นไม่เคยได้รับการติดตามจากคู่กรณีอีกเลย
กระทั่งเมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2562 ที่ผ่านมาศาลได้พิพากษาให้จำเลยหรือคู่กรณีจ่ายเงินเยียวยาให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้ง 9 ราย แต่หลังศาลตัดสินผ่านมา 2 เดือนแล้วยังไม่มีใครได้รับเงินเยียวยาเลย จึงอยากจะเรียกร้องให้จำเลยได้เคารพคำตัดสินของศาล และเห็นใจครอบครัวผู้สูญเสียด้วย เพราะถึงแม้เงินที่ได้รับจะไม่สามารถทดแทนกับชีวิตลูกสาวที่สูญเสียไปได้ แต่ควรจะมีจิตสำนึกความเป็นมนุษย์ที่ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่กระทำ พร้อมฝากถามด้วยว่า หากเป็นครอบครัวคุณบ้างจะรู้สึกอย่างไร
อ่านข่าวต้นฉบับ: https://mgronline.com/local/detail/9620000068270
Comments