แรงฝืนช่างเบาหวิว
เพียงแค่ไล่นับนิ้ววัยวันผ่าน
ต่อแต่นี้เร็ววันหรือช้านาน
อาจจะไม่ทนทานต้านชีวิต
.
อาจจะไม่มีแล้วเส้นแนวสร้าง
มีแต่ต้องบุกถางทางลิขิต
บทกวีเติบวัยไร้ทางทิศ
เพียงแนบชิดคืนวันฝันดอกไม้
.
ไม่อาจร้อยถ้อยคำผ่านเพาะบ่ม
ให้เชยชมชื่นชอบคำตอบใช่
ซ่อนรู้สึกเหนียมอายไว้ภายใน
เร้นละเมียดละไมอยู่อย่างนี้
.
หากจะฝืนตื่นฝันมาฝึกฝน
คงต้องค้นหมุดหมายมาคลายคลี่
รายละเอียดในฝันแทบไม่มี
เปิดอ่านบทกวีเพียงผ่านตา
.
ไม่มีหรอกตาใจมองทะลุ
มีแต่ฝันบรรจุปรารถนา
เต็มในเป้สะพายไร้ราคา
หอบฟางหญ้าบ้าบิ่นกรุ่นกลิ่นรวง
.
เห็นเมล็ดข้าวเปลือกเมล็ดหนึ่ง
คล้ายคลอคลึงหนังสือราวแหนหวง
หนังสือในเป้หนักราวจะล้วง
เข้าทะลุทะลวงถึงทรวงลึก
.
มาแตกเป็นต้นกล้าแต่ตอนไหน
แตกรากเพรียวเรียวใบในรู้สึก
แสงตะวันสาดส่องในสำนึก
คืนเดือนดับจวบดึกยังพร่างพราย
.
ให้ทุกคืนเดือนดับส่องแสงวาบ
มองเห็นนวลแสงฉาบเป็นภาพฉาย
จากโคมไฟดวงน้อยค่อยคลี่คลาย
ข้าวตั้งท้องเรียงรายอยู่หลายกอ
.
พื้นฉากหลังยังมีคนแบกเป้
เดินระเห็จเตร็ดเตร่เร่มาขอ
พักสักคืนแบ่งปันความฝันลออ
ตุนเสบียงเพียงพอต่อก้าวเดิน
บทกวีจาก: อาคม คำภูษา
Comments