The Chair Man
เหยื่อในเหตุ 6 ตุลา 19
คือนิสิตจุฬาจากอุบลราชธานี
เรียกกันว่า วันนองเลือดบ้าง วันมหาวิปโยคบ้าง
วันนั้นที่สนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และท้องสนามหลวง ขณะที่นักศึกษาจากหลายมหาวิทยาลัยกำลังชุมนุมประท้วงการเดินทางกลับประเทศของเผด็จการจอมพลถนอม กิตติขจร อดีตนายกรัฐมนตรี
และแล้วการรุกไล่กระชับพื้นที่จากมวลชนขวาพิฆาต กระทิงแดง นวพล ลูกเสือชาวบ้าน ในวันนั้น ต่อมาเหตุการณ์ก็ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์การเมืองไทยไปตลอดกาล
.
มากบ้างน้อยบ้าง- เชื่อว่าคนไทยหลายคนจะรู้จักภาพการถูกเข่นฆ่าอย่างสยดสยองของนักศึกษาและประชาชนในเหตุการณ์รุนแรงวันที่ 6 ตุลาคม 2519 โดยหนึ่งในภาพที่ติดตาผู้คนมากที่สุดเห็นจะเป็นภาพ ชายคนหนึ่งถูกแขวนคอกับต้นมะขาม โดนทำร้าย ทั้งเตะ ทั้งถีบ แล้วโดนเก้าอี้ฟาดร่างไร้วิญญาณ ท่ามกลางความยินดีของเหล่าคนที่มามุงดูและเห็นความตายของเขาเป็นเพียงเรื่องสนุกสนาน
.
ภาพบางภาพถูกบันทึกโดยนักข่าวต่างประเทศ ได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ในปี 2520 กระทั่งเกือบ 40 ปีผ่านไป กลุ่มทำงานโครงการบันทึก 6 ตุลา พยายามรื้อฟื้นว่าเหยื่อที่พบเผชิญจากเก้าอี้ผู้นั้นเป็นใคร และเรียกกันให้เป็นที่เข้าใจก่อนว่า The Chair Man กระทั่งค้นพบและยืนยันตัวบุคคลได้
.
บุคคลในภาพคนนั้นคือ เปี๊ยก วิชิตชัย อมรกุล เขาเกิดในครอบครัวที่มีฐานะ บ้านเป็นเจ้าของกิจการโรงแรม เขาจากบ้านเกิดที่ จังหวัดอุบลราชธานี มาเรียนต่อที่กรุงเทพมหานครในโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา กระทั่งปี 2518 สอบติดคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นอกจากเรียนแล้วสิ่งที่เขาหลงไหลในชีวิตอย่างถอนตัวไม่ขึ้นคือกีฬารักบี้
.
จากบันทึกของ รศ.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ บอกไว้ว่า วิชิตชัย อมรกุล เข้าร่วมการต่อสู้ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ครั้งนั้นตั้งแต่ต้น และด้วยความเป็นนักกีฬาที่มีร่างกายแข็งแรงปราดเปรียว จึงอาสาเข้าประจำหน่วยรักษาความปลอดภัยแนวหน้าสุด วิชิตชัยทำหน้าที่อย่างถึงที่สุด ทั้งหมอบ ทั้งวิ่งฝ่าห่ากระสุนเข้าช่วยเพื่อนๆ ที่บาดเจ็บคนแล้วคนเล่า แต่ขณะที่วิชิตชัยวิ่งเข้าไปช่วยเพื่อนอีกคนที่ถูกยิงล้มคว้ำอยู่ตรงหน้าประตูใหญ่ ตัวเขาทรุดฮวบลงทันที
.
วิชิตชัย ถูกยิงด้วยปืนเอ็ม 16 เข้าที่ท้อง กระสุนทะลุหลังเลือดสาดกระเซ็นเต็มพื้นซีเมนต์ กลุ่มกระทิงแดง ลูกเสือชาวบ้าน และนวพลที่กระหายเลือดสุดขีด พากันเข้ารุมทึ้งวิชิตชัย เอาเชือกเข้าผูกคอ ลากเอาร่างของเขาไปตามพื้นแล้วเอาท่อนไม้ เก้าอี้เหล็ก ฟาดซ้ำไม่นับครั้งอย่างเมามัน จากนั้นก็เอาเชือกคล้องเข้ากับกิ่งไม้ กระตุกดึงเอาร่างของเขาขึ้นไปแขวนคอห้อยอยู่กับกิ่งไม้ใหญ่ ถึงกระนั้นก็ยังมิหนำใจ ยังใช้ท่อนไม้ เก้าอี้เหล็ก ฟาดซ้ำอีกนับครั้งไม่ถ้วน พร้อมคำก่นด่าอย่างหยาบคายไม่หยุดปาก ท้ายสุดก็ปลดเชือกทิ้งร่างของวิชิตชัยลงมา เอาน้ำมันราดและยางรถวางทับแล้วจุดไฟเผา ทั้งหมดนี้ต่อหน้าฝูงชนที่มุงดูแน่นขนัด และต่อหน้ากองกำลังตำรวจผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ไทย ที่กำลังปิดล้อมยิงถล่มนักศึกษาที่อยู่ภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
.
คุณพ่อของวิชิตชัย เดินทางจากอุบลราชธานีเข้ากรุงเทพ ตั้งแต่เหตุการณ์เริ่มส่อเค้าความรุนแรง แต่ไม่พบลูกชาย เพราะวิชิตชัยไปประจำอยู่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตั้งแต่ต้นเสียแล้ว หลังจากการเข่นฆ่าสังหารหมู่ในเช้าวันที่ 6 ตุลาคม คุณพ่อก็ออกค้นหาลูกชายที่โรงเรียนตำรวจบางเขต ซึ่งเป็นที่คุมขังนิสิตนักศึกษากว่า 3,000 คน ที่ถูกจับกุมในวันนั้น แต่ก็ไม่พบชื่อวิชิตชัย อมรกุล แต่อย่างใด คุณพ่อจึงหันไปค้นหาลูกชายตามห้องผู้บาดเจ็บในโรงพยาบาลทั่วกรุงเทพ แต่ก็ไม่พบแม้แต่เงาร่างของลูกชาย
.
ด้วยหัวใจที่เจ็บปวดและพรั่นพรึง คุณพ่อตัดสินใจเข้าดูศพผู้เสียชีวิต ดูแม้แต่ศพที่เหลวแหลกเพราะถูกทารุณกรรมสุดป่าเถื่อนหลายสิบศพ แต่ก็หาไม่พบอีก…ดูเหมือนความหวังที่จะพบลูกชายสุดที่รักจะเลือนลางเต็มที
.
เพื่อนสนิทของวิชิตชัย ซึ่งเป็นนิสิตรัฐศาสตรและเป็นนักกีฬาในทีมเดียวกันอาสาช่วยคุณพ่อดูศพอีกรอบ ในที่สุด เพื่อนก็มาหยุดอยู่ที่ร่างหนึ่ง ใบหน้าเหลวเลย มีเชือกผูกที่คอ มีรูกระสุนปืนที่ท้อง และร่างกายแหลกช้ำ เพื่อนสังเกตเห็นร่างนั้นใส่รองเท้ากีฬาที่ชำรุดและมีรอยซ่อมแซม …นั่นมันรองเท้ากีฬาคู่โปรดของวิชิตชัย… คุณพ่อเข่าอ่อน น้ำตาพรั่งพรูออกมาอย่างหมดกลั้น
_____________________
*วิชิตชัย คือหนึ่งในเหยื่อจากการทารุณกรรม ลักษณะ The Chair Man ซึ่งยังมีบางรายที่ระบุตัวบุคคลที่โดนกระทำลักษณะนั้นไม่ได้
ขอบคุณ คุณนิติกร และภัทรภร ที่ทักท้วงเรื่องข้อมูลอันคลาดเคลื่อนมาด้วยนะครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก 2519.net และ www.doct6.com
#theisaander #อุบลราชธานี #ลืมไม่ได้จำไม่ลง #6ตุลา #วิชิตชัยอมรกุล #เตรียมอุดมศึกษา #จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย #ธรรมศาสตร์ #thechairman — at Thammasat University มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
Kommentare