top of page
Writer's pictureThe Isaander

ทหาร เรียกค่าขน รถแทรกเตอร์ ขึ้นภูกระดึงดับไฟป่า 3.5 ล้าน ไม่รวมน้ำมัน จังหวัดเลยไม่มีงบ!


Updated : 09.00 น. วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 ไทเลยไม่ง้อกองทัพ ขออาสาขนแทรกเตอร์ขึ้นภูกระดึง หลังทหารเรียกค่าขนส่ง 3.5 ล้าน เว็บไซต์ มติเลย http://www.matiloei.com/2020/02/24/832/?fbclid=IwAR2zQ5PG-BNhf__gu_EcykfjPwywrUX1zqohwCSRsGMlMeuZlGwDD4HRovM รายงานเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563 ว่า เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563 จากสถานการณ์ไฟป่าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ตั้งแต่เมื่อช่วงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา และเจ้าหน้าอุทยานทั้งภูกระดึง และอุทยานต่างๆในจังหวัดเลย เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าภูกระดึง พร้อมประชาชนในพื้นที่ ต่างระดมกำลังเร่งดับไฟ พร้อมกับทำแนวกันไฟ สถานการณ์ปัจจุบันไฟไหม้ป่าบนภูกระดึงได้สงบลง จากสถานการณ์ไฟไหภูกระดึงครั้งนี้ ได้สร้างความสูญเสียของระบบนิเวศน์ป่าภูกระดึงเป็นอย่างมาก กว่า 3,400 ไร่ ทั้งนี้ทางจังหวัดเลย โดยนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย นายสมบัติ พิมพ์ประสิทธิ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง หลังมีการประชุมการแก้ไขภัยป่า มีข้อสรุปต้องนำเครื่องจักรช่วยในการป้องกันการดับไฟ โดยได้ทำหนังสือถึง กองทัพบก เพื่อขอความอนุเคราะห์นำเฮลิคอปเตอร์ รุ่น MI 17 ขนรถแทรกเตอร์ จำนวน 2 คัน กระบะ 1 คัน และน้ำมันเชื้อเพลิงขึ้นไปยอดภูกระดึง เพื่อไว้ทำแนวกันไฟ และใช้ในงานบนยอดภูกระดึง โดยล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ทางจังหวัดเลยได้ประสานไปทางกองทัพบก จากนั้นทางกองทัพบกได้ประสานมา การขนส่งจะนำรถแทรกเตอร์ขึ้นภูกระดึง จะมีค่าใช่จ่ายการเสื่อมสภาพของเครื่องบิน ยังไม่รวมค่าน้ำมันที่ทางจังหวัดจะเป็นส่วนที่รับผิดชอบ โดยคิดค่าใช้จ่ายในเฉพาะขนส่งจำนวน 3.5 ล้านบาท ซึ่งทางจังหวัดและอุทยานไม่อาจที่จะหางบประมาณการขนส่งครั้งนี้ได้ จึงได้ยุติการใช่เอลิคอปเตอร์ จากการมีข่าวสะพัดออกไป ได้มีคนรักภูกระดึง รวมทั้งผู้ใหญ่บ้านกำนัน ในเขตอำเภอภูกระดึง ได้เข้าหารือกับนายภูริวัจน์ โชตินพรัตน์ นายอำเภอภูกระดึง พร้อมกับจะยอมช่วยกัน โดยจ้างให้ช่างแยกชิ้นส่วนรถแทรกเตอร์ และจะร่วมด้วยช่วยกันแบกชิ้นส่วนอะไหล่แทรกเตอร์ขึ้นภูกระดึง โดยจะของเกณฑ์ลูกบ้าน จิตอาสา อพปร. ช่วยกันนำชิ้นส่วนทั้งหมดแบกขึ้นภูกระดึงเอง เนื่องจากว่า ไฟไหม้ภูกระดึงครั้งนี้ชาวบ้านต่างได้พบเห็นความอยากลำบากในการดับไฟของเจ้าหน้าที่ ที่ต้องดับไฟตลอดทั้งคืน ร่วมเกือบอาทิตย์ โดยใช้แต่แรงกาย การอยู่กินแบบก็ยากลำบาก แต่ละวันต้องเดินดับไฟเป็นระยะหลายสิบกิโล ทั้งอันตราย หน้าผา และเขาที่สูงชั้น ส่วนนายภูริวัจน์ โชตินพรัตน์ นายอำเภอภูกระดึง เผยว่า ในเรื่องนี้ตนจะขอปรึกษารายงานต่อท่านชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย รวมทั้งนายสมบัติ พิมพ์ประสิทธิ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง กับความเป็นไปได้ เนื่องจากรถแทรกเตอร์มีขนาดใหญ่ และที่สำคัญเรื่องช่างที่จะมาแยกชิ้นส่วนและประกอบจะทำได้มั้ยอย่างไร ซึ่งตรงกันกับรายงานของ สถานีโทรทัศน์สี “กองทัพบก” ช่อง 7 https://news.ch7.com/detail/396636?fbclid=IwAR14Z0J-w-bCQL_YyXKxKlv2OvI-XgrTCnr_46o4YO3zU0ndImYxTsE0UdM ที่รายงานในวันเดียวกัน ระบุว่า ค่าใช้จ่ายสูง ยกเลิกแผน ฮ. ขนรถทำแนวกันไฟภูกระดึง

จากสถานการณ์ไฟป่าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 ก.พ. 63 ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เร่งทำแนวกันไฟ ดับไฟ จนขณะนี้ ได้ดับลง ซึ่งมีพื้นที่เสียหายประมาณ 3,400 ไร่ นั้น ทาง นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย นายสมบัติ พิมพ์ประสิทธิ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง หลังได้ร่วมหารือกัน ได้ทำหนังสือถึงกองทัพบก เพื่อขอความอนุเคราะห์นำเฮลิคอปเตอร์ รุ่น MI 17 ขนรถแทรกเตอร์ จำนวน 2 คัน กระบะ 1 คัน และน้ำมันเชื้อเพลิงขึ้นไปยอดภูกระดึง เพื่อไว้ทำแนวกันไฟ และใช้ในงานบนยอดภูกระดึง ล่าสุด หลังจากที่ประสานไปทางกองทัพบกไปเรียบร้อยแล้วนั้น ทางกองทัพบก แจ้งว่า ต้องมีค่าใช้จ่าย โดยราคาจะอยู่ที่ประมาณ 3.5 ล้านบาท ทางจังหวัดฯ ไม่มีเงินจ่าย จึงถูกยกเลิกภารกิจดังกล่าว ขณะที่ เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีสินิชย์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 จะได้เดินทางมาโดยเฮลิคอปเตอร์ เพื่อมาติดตามภารกิจไฟป่าที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง โดยจะมีการปรึกษาหารือกันอีกครั้งว่า จะนำรถขึ้นไปบนยอดภูกระดึงยังไง สอดคล้องกับ รายงานของ ผู้จัดการออนไลน์ https://mgronline.com/local/detail/9630000018816?fbclid=IwAR2RDUfJq6QVb2aa1-ge6z8hIPjSQA-LdEj4hW753n3RsTKjMi3105vVL74 ที่ระบุว่า วืดใช้เฮลิคอปเตอร์ขนแทรกเตอร์ทำแนวกันไฟป่าภูกระดึง ค่าใช้จ่ายสูงกว่า 2 ล้านบาท เลย - อดได้ใช้เฮลิคอปเตอร์ขนแทรกเตอร์และกระบะขึ้นภูกระดึงทำแนวป้องกันไฟป่า หลังกองทัพบกแจ้งต้องมีค่าน้ำมันและซ่อมบำรุงสูงกว่า 2 ล้านบาท ล่าสุดผู้ว่าฯ เผยขอแรงงานแต่ละหมู่บ้านใกล้ภูกระดึงกว่า 200 คนช่วยกันแบกหามชิ้นส่วน หลังจากเกิดเหตุไฟไหม้ป่าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ตั้งแต่บ่ายวันที่ 15 ก.พ. 63 ที่ผ่านมา ขณะนี้ผ่านมาแล้ว 10 วัน ไฟป่าดังกล่าวนั้นได้ดับลงแล้ว แต่สถานการณ์ในพื้นที่ยังเสี่ยงต่อการเกิดไฟป่าอีกเพราะมีปัจจัยเอื้อหลายประการ โดยทางอุทยานฯ และทางจังหวัดเลยได้ขอความช่วยเหลือไปยังกองทัพบกให้ส่งเฮลิคอปเตอร์มาทำภารกิจขนรถแทรกเตอร์และรถกระบะขึ้นไปบนยอดภูกระดึงเพื่อทำแนวกั้นไฟ แต่ได้รับคำตอบว่าการนำเฮลิคอปเตอร์มาใช้ในภารกิจนี้มีค่าใช้จ่ายเป็นค่าน้ำมันและค่าซ่อมบำรุงสูงราว 2-3 ล้านบาท ล่าสุดทางจังหวัดได้ปรับเปลี่ยนแผนนำแทรกเตอร์และรถยนต์กระบะดังกล่าวขึ้นภูกระดึงด้วยวิธีการแยกชิ้นส่วนแล้วใช้กำลังคนแบกหามแทน ล่าสุด 25 ก.พ. นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ขอความร่วมมือผ่านไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และองค์กรปกครองท้องถิ่นในพื้นที่ใกล้เคียงภูกระดึง เพื่อนำลูกบ้านมาช่วยเหลือทางราชการอย่างน้อยหมู่บ้านละ 5 คน คาดว่าจะใช้กำลังคนช่วยกันแบกหามชิ้นส่วนขึ้นภูกระดึงครั้งนี้ราว 200 คน ขณะเดียวกัน ได้ประสานกับบริษัทรถแทรกเตอร์ที่จำหน่ายให้กับกรมอุทยานฯ จัดส่งวิศวกรมาช่วยวางแผนเพื่อจะถอดชิ้นส่วนและลำเลียงขึ้นไปบนยอดภูกระดึงและช่วยประกอบกลับคืนเพื่อพร้อมใช้งาน “หากพี่น้องประชาชน ชาวไทย คนรักภูกระดึงอยากจะมาช่วยภารกิจนี้ก็เชิญมาร่วมได้ ชิ้นส่วนรถแทรกเตอร์มีน้ำหนักอยู่ราว 300-400 กิโลกรัม ต้องแยกชิ้นส่วนเพื่อให้การขนย้ายง่ายขึ้นเบาขึ้น ส่วนสิ่งของที่พี่น้องชาวภูกระดึงเคยยกขนขึ้นบนยอดภูมีน้ำหนักสูงสุดประมาณ 500 กิโลกรัม” นายชัยวัฒน์กล่าว และว่า ให้ถือว่าภารกิจนี้เป็นภารกิจที่จะพิสูจน์ความสามัคคีของชาวไทยทุกภาคส่วนมาช่วยกันแบกหาม คาดว่าจะใช้เวลาขนประมาณหนึ่งวันหนึ่งคืน หรือราว 24 ชั่วโมง ชิ้นส่วนค่อนข้างหนัก ต้องค่อยเป็นค่อยไป แต่หากใครมีอุปกรณ์ลักษณะของล้อเลื่อนพอที่จะดันของที่มีน้ำหนัก 300-400 กิโลกรัมได้จะดีมาก หลังจากข่าวดังกล่าวกลายเป็นประเด็น กองทัพถูกต่อว่า ในบ่ายวันเดียวกัน มติชน ได้รายงาน ในข่าวชิ้นนี้ว่า https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_2003901 ‘บิ๊กตู่’ สั่งทบ.นำเฮลิคอปเตอร์ บินขนรถแทรกเตอร์ ขึ้นภูกระดึง ทำแนวกันไฟ ช่วงบ่ายวันนี้ มติชนรายงานว่า จากกรณีเหตุไฟไหม้พื้นที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึงช่วงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่สามารถดับไฟป่าได้ทั้งหมดมีพื้นที่ป่าได้รับความเสียหาย 3,400 ไร่ ล่าสุดนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลยได้ประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาไฟป่า ก่อนจะมีข้อสรุปขอความอนุเคราะห์ไปยังกองทัพบกให้ นำเฮลิคอปเตอร์ รุ่น MI 17 ขนรถแทรกเตอร์ จำนวน 2 คัน กระบะ 1 คัน และน้ำมันเชื้อเพลิงขึ้นไปยอดภูกระดึง เพื่อไว้ทำแนวกันไฟ และใช้ในงานบนยอดภูกระดึง แต่ทางกองทัพบกได้แจ้งกลับว่ามีค่าใช้จ่ายเฉพาะการขนส่ง 3.5 ล้านบาท ซึ่งทางจังหวัดไม่มีงบประมาณ เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ นายภูริวัจน์ โชตินพรัตน์ นายอำเภอภูกระดึง เปิดเผยว่าขณะนี้ทางจังหวัดเลยได้รับการติดต่อประสานงานกับ กองทัพภาคที่ 2 ว่าจะนำเครื่องเฮลิคอปเตอร์ รุ่น MI 17 ขนรถแทรกเตอร์ จำนวน 2 คัน กระบะ 1 คัน และน้ำมันเชื้อเพลิงอีก 5,000 ลิตรขึ้นไปยอดภูกระดึง โดยจะเริ่มบินในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 63 ในช่วงเช้า ความจริงในเรื่องนี้ทางกองทัพภาคที่ 2 ได้ตั้งใจจะบินมาช่วยอยู่แล้ว แต่ได้ติดภารกิจดับไฟป่าที่จังหวัดนครนายก จึงได้ช้าออกไป แต่ทั้งนี้จะเริ่มภารกิจขนของขึ้นในเช้า 26 กุมภาพันธ์ ทันที รายงานแจ้งว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ มีคำสั่งให้แม่ทัพภาคที่ 2 ให้การช่วยเหลือในเรื่องดังกล่าวโดยให้ใช้งบประมาณเข้ามาช่วยเหลือ หลัง นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เข้าปรึกษาพล.อ.ประยุทธ์ในกรณีดังกล่าว ในวันเดียวกัน ดิ อีสานเด้อได้พยายาม สอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภายหลังจาก มติเลย ช่อง 7 รวมถึง Voice TV ได้รายงานข่าว ค่าใช้จ่าย 3.5 ล้านบาท https://voicetv.co.th/read/wjKg6FfJV?fbclid=IwAR3acAY5PdcAsWH1IcRt---eoIqliRdisouovbpVGh6rjickVa9ka6AKxb8 นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าวผ่านโทรศัพท์ ระบุว่า มีการของสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์จากแม่ทัพภาคที่ 2 ไปประมาณวันที่ 17-18กุมภาพันธ์ และได้รับประสานว่าจะมาปฏิบัติภารกิจขนแทรคเตอร์ให้ แต่เนื่องจากเกิดเหตุไฟไหม้โรงเรียนนายร้อย จปร.เลยได้ไปภารกิจฉุกเฉินที่เขาซะโงก ซึ่งในพื้นที่ได้เตรียมการล้านจอดฮอฯไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้รับประสานว่าเสร็จภาระกิจหรือยัง และไม่ยืนยันเกี่ยวกับตัวเลข 3.5 ล้านบาท "ทางพื้นที่ได้ปรึกษากันว่าอีกวิธีหนึ่งที่มีความเป็นไปได้และทำได้เลยคือการถอกชิ้นส่วนแล้วช่วยกันแบกขึ้น ขออาสาจากหมู่บ้านละ 5 คนมาช่วยกัน น่าจะสำเร็จได้ ส่วนเฮลิคอปเตอร์จากกองทัพยังไม่ได้รายงานและไม่รับทราบว่าภาระกิจด่วนที่โรงเรียนนายร้อย จปร.เสร็จสิ้นหรือยัง" "ไม่แน่ใจว่ามาจากไหน หรืออาจะเป็นคนที่เขาทราบข้อมูลจากไหนก็ไม่มั่นใจ แต่สิ่งได้รับก็คือว่าเขาพร้อมมาดำเนินการ เราประสานแล้วทำลานจอดฮอฯไว้แล้ว แต่เกิดภาระกิจไฟไหม้ที่นครนายกก่อน" ขณะที่ นายภูริวัจน์ โชตินพรัตน์ นายอำเภอภูกระดึง ให้สัมภาษณ์ว่า รถแทรคเตอร์ ที่ต้องใช้ในงานแนวกันไฟป่าเร่งด่วน มีจำนวน 2 คัน เพื่อใช้ในภารกิจป้องกันไฟป่าที่จะเกิดขึ้นอีก เพราะมีการปรปะเมินกันแล้ว มีความเสี่ยงอยากมาก บริษัทที่ประมูลขายรถให้อุทยาน จะมาแยกชิ้นสวนประกอบให้ในวันที่ 2 มีนาคม แล้วจะใช้ลูกหาบและผู้ประกอบการขายสินค้าภูกระดึง ร่วมกับขอความร่วมมือกับชาวบ้านหมู่บ้านละ 5 คน ในการขนชิ้นส่วนรถแทรกเตอร์ขึ้นไปอย่างเร็วที่สุด พื้นที่ด้านบนภูกระดึงเป็นพื้นที่ป่าสน ซึ่งติดไฟง่าย เราต้องรีบขึ้นไปทำแนวกันไฟ บวกกับปีนี้แล้ง ไฟขยายตัวง่ายและเร็วขึ้น ถ้าไฟเข้าไปยังพื้นที่ที่เป็นหน้าผา ยากแต่การเข้าไปดับ ถ้าไม่รีบป้องกันจะเกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก ทางจังหวัดก็ได้ประกาศภัยพิบัติไปแล้ว จะมีการประชุมกันในเร็ววันนี้ถึงเรื่องการปิดการท่องเที่ยวภูกระดึงไวขึ้น คาดว่าจะมีการปิดเดือน เมษายน ปิดก่อนกำหนดประมาณ 2 เดือน เพื่อให้สะดวกแกการทำงานควบคุมไฟป่าได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และไม่รบกวนนักท่องเที่ยว เพื่อรักษาป่าภูกระดึงที่มีความสำคัญด้านระบบนิเวศแห่งนี้เอาไว้ ทั้งนี้ ดิ อีสานเด้อ ยังได้สอบถามไปยัง กองทัพภาคที่ 2 และ พลโทธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาคที่ 2 แต่ หมายเลขที่ระบุไว้คือ 044243985 ไม่สามารถใช้การได้ ทั้งยังได้ติดต่อไปยัง นายสมบัติ พิมพ์ประสิทธิ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง และ นายอดิศร เหมทานนท์ หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าภูกระดึง ก็ไม่มีการรับสาย ต่อมาในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ Army Times Thailand จึงได้ ออกข่าว https://www.facebook.com/ArmytimesThailand/photos/pcb.2399745740316214/2399745596982895/?type=3&theater ฮ. Mi17 ทำการบินยกเครื่องมือหนัก บนภูกระดึง แล้ว พลตรีเกียรติศักดิ์ วิเวก ผบ มทบ .21 ระบุ เครื่อง Mi-17 วางแผนทำการบินเพื่อยกเครื่องมือหนัก ในวันนี้จำนวน 3 รอบ โดยรอบแรกซึ่งอยู่ระหว่างการบิน ได้ยกเครื่องมือที่เป็นอุปกรณ์ขึ้นไปก่อน และรอบที่ 2 จะทำการยกรถกระบะ และรอบที่ 3 จะทำการยกรถไถ แต่ในขณะนี้ ทำการยกเครื่องมือ แล้วทำให้สายสลิงนั้นเกิดปัญหา จึงจะทำการเปลี่ยนสายสลิงยกอุปกรณ์ แล้วจะทำการยกเครื่องมือหนัก ต่อ ภารกิจของ เครื่อง Mi-17 จะประจำการอยู่ในพื้นที่ประมาณ 3-5 วันโดย ประมาณ เพื่อช่วยภารกิจดังกล่าวให้สำเร็จ #Isaander #ซื้อมาโชว์วันเด็กบ่ #เอามาไว้ส่งนายพลไปตีกลอฟ #สางเขียว #เงินประชาชนแต่ฮอของกองทัพ #เอาคักๆ #เมืองเลยก๋อ #สาวเลยยังรอ #แต่ฮอไม่มา #ลมพัดตึ้ง #ข้ามภูกระดึงเขตเมืองเลย #ยังจำคำที่นายกเอยว่าบ่เคยชิคิดลืมประชาชน #ลมปาก #กองทัพของใคร #แต่เงินภาษีของประชาชน

113 views0 comments

Comments


bottom of page