ตู่ลั่นตู่ไม่เกี่ยว ไม่ได้เอี่ยว 1MDB

ในวันพุธนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชี้แจงระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่รัฐสภาระบุว่า รัฐบาลไม่ได้อำนวยความสะดวกให้นาย โจ เตี๊ยก โล หรือโจโล นักธุรกิจมาเลเซียซึ่งพัวพันคดีทุจริตกองทุนพัฒนามาเลเซีย(1MDB) ให้เดินทางเข้าประเทศไทยแม้มีหมายจับของตำรวจสากล ขณะที่รองโฆษกตำรวจ ระบุ ยังไม่มีกำหนดฟ้อง น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีต สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งกล่าวพาดพิงหน่วยงานรัฐว่ามีส่วนรู้เห็นกับการทุจริตดังกล่าว ตู่ยืนขึ้นยัน ไม่เกี่ยว โจโล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลุกขึ้นชี้แจง กรณีที่ มีผู้กล่าวหาว่า รัฐบาลไทยเกี่ยวข้องกับคดีทุจริต 1MDB ระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยปฏิเสธความเกี่ยวข้องและรู้เห็น “ในส่วนของที่ท่านกล่าวอ้างว่า รัฐบาลมีการเอื้อประโยชน์ให้กับโครงการ(1MDB)... ผมไม่อยากไปก้าวล่วง เพราะเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วยนะครับ ผมยืนยันว่ามีอยู่สองคนที่เกี่ยวข้องตรงโน้น หนึ่งคนนั้นรับโทษในเรือนจำไปแล้ว อีกหนึ่งคนเข้าออกที่อ้างว่าตามหมายแดงนั้น ผมได้เช็คตรวจสอบเป็นทางการว่าหมายแดงออกมาเมื่อไหร่ ปรากฎว่า ออกมาหลังจากนั้นไปแล้ว” พลเอกประยุทธ์ กล่าว “ในช่วงแรกเขามีการเข้าออกประเทศอยู่แล้ว เหมือนกับบุคคลทั่วไป เพราะยังไม่มีหมายแดง ต้องไปดูว่า เขาออกหมายแดงมาเมื่อไหร่ ที่นี้ สิงคโปร์ หรือต้นทางที่ออกมาเขายกเลิก หมายแดงไปแล้ว และที่สำคัญคือ คนที่เข้าออกคนนี้ที่ท่านว่า เขามีสิทธิของเขาพอสมควรเหมือนกัน จากอะไรครับ จาก อีลิท การ์ด ไม่รู้ใครทำให้เขา เพราะฉะนั้นผมคิดว่า ผมตอบตรงนี้ได้” พลเอกประยุทธ์ ระบุ การชี้แจงของ พลเอกประยุทธ์ สืบเนื่องจากการที่ นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวพาดพิง กรณี 1 MDB และตัวนายกรัฐมนตรี โดยเรียกร้องให้ พลเอกประยุทธ์ ชี้แจง “ไม่กี่วันนี้มีการอภิปรายนอกสภา และมีการพูดถึงบริษัท 1MDB ผมเห็นตกใจ เพราะอะไร คู่กรณีที่ลงหนังสือพิมพ์ผ่านด่านตลอด ไบโอแมทริกมีทำไม คุณมีหมายแดงจากมาเลเซียก็ไม่จับเขา ให้เข้าออกอยู่บ้านเราหลายครั้ง และที่สำคัญมีหมายจับแดงจากสิงคโปร์ก็ไม่จับเขา ให้เข้าออก เข้าออกอีกหลายรอบ ที่สำคัญโครงการนี้ กล่าวหาท่านนายกฯอย่างร้ายแรง ท่านเสียหายไปทั่วโลก ผมก็ยังไม่เชื่อ ท่านใช้โอกาสนี้ชี้แจงเถอะ เพราะท่านอยู่ไม่ได้แน่” นายวิสาร กล่าว ช่อ อภิปรายนอกสภา ไม่ไว้ใจ ตู่ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นางสาวพรรณิการ์แถลงข่าวโดยใช้ชื่อ การอภิปรายไม่ไว้วางใจนอกสภา ระบุว่า รัฐบาลไทยอาจมีส่วนรู้เห็นกับคดีทุจริตอื้อฉาว 1MDB โดยระบุว่า รัฐบาลไทยปล่อยให้นายโจ โล เดินทางเข้าประเทศไทย แม้จะมีหมายจับสีแดงของตำรวจสากล อีกทั้งยังจับกุมตัวนายชาเบียร์ ฆุสโต ผู้ให้ข้อมูลเปิดเผยการทุจริต 1MDB ในประเทศไทย “นับตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2559-13 พฤษภาคม 2561 ข้อมูลการเดินทางเข้าออกไทยของโจโล มีข้อมูลชัดเจนในระบบ ตม. 5 ครั้ง เป็น 5 ครั้งที่เขาเดินทางเข้าออกประเทศไทยอย่างสบายใจโดยไพรเวท เจ็ท... แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ไม่มีหลักฐานใด ๆ เลย ปรากฏว่าเราขัดขวางการเข้าเมืองของโจ โล ไม่มีหลักฐานใดปรากฏว่า เราได้แจ้งสิงคโปร์” นางสาวพรรณิการ์ กล่าว “ชาเบียร์ ฆุสโต เปิดเผยข้อมูล 1MDB ผ่าน แคลร์ บราวน์ กุมภาพันธ์ 2558 สี่เดือนผ่านมา เขาถูกจับกุมที่บ้านของเขาที่เกาะสมุย... ตำรวจไทยบอกว่า ปิโตรซาอุดิ ประสานงานกับตำรวจ ขอให้ดำเนินการจับกุมชาเบียร์ ฆุสโต ซึ่งขู่แพทริก มาฮอนี่ ผู้จัดการของปิโตรซาอุดิ ว่าจะเปิดเผยข้อมูลความลับการค้าของบริษัท ถ้าหากไม่ได้เงิน 83 ล้านบาท” นางสาวพรรณิการ์ ระบุ “การกรรโชกทรัพย์ ซึ่งปิโตรซาอุดิ กล่าวอ้างนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2556 แต่การจับกุมกลับเกิดขึ้นในปี 2558 ช่างบังเอิญซะเหลือเกินที่การจับกุมเกิดขึ้น หลัง 4 เดือนที่ชาเบียร์ ฆุสโตกลายเป็นผู้เปิดโปงเรื่องอื้อฉาวครั้งใหญ่ของทศวรรษ” นางสาวพรรณิการ์ กล่าวเพิ่มเติม การทุจริต 1MDB แบบย่อ สำหรับ นายชาเบียร์ ฆุสโต ชาวสวิตเซอร์แลนด์ ต้องโทษจำคุกในไทยเป็นเวลา 3 ปี ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2558 หลังจากสารภาพว่า ข่มขู่และพยายามกรรโชกทรัพย์จาก ปิโตรซาอุดิ ซึ่งเป็นบริษัท น้ำมัน และก๊าซ สัญชาติซาอุดิอาระเบีย ที่ร่วมทุนกับ กองทุนพัฒนามาเลเซีย (1MDB) โดยนายชาเบียร์ เคยเป็นพนักงานของบริษัท ปิโตรซาอุดิ โดย นายชาเบียร์ได้ปล่อยเอกสารลับจาก ปิโตรซาอุดิ ที่เกี่ยวข้องกับ 1MDB จำนวนมาก และเป็นเบาะแสของการตรวจสอบคดีฟอกเงิน และทุจริต เมื่อ นายชาเบียร์ ได้รับพระราชทานอภัยโทษเหลือจำคุก 2 ปี ทำให้ทางการสวิส ร้องขอให้โอนตัวไปรับโทษจำคุกส่วนที่เหลือที่สวิตเซอร์แลนด์ ทั้งนี้ กองทุน 1MDB ก่อตั้งขึ้น เมื่อปี 2552 เพื่อลงทุนในสินทรัพย์ ยุทธศาสตร์ และโครงการพลังงาน ต่อมาถูกเปิดเผยว่า เป็นโครงการที่มีการทุจริต นำไปสู่การถูกจับกุมตัวของนายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ไม่กี่เดือนก่อนกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ได้ฟ้องร้องเพื่อหาทางยึดทรัพย์กว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นการฟอกเงินในโครงการ 1MDB รัฐบาลลั่น ฟ้องแน่แม่จ๋า นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนี้ว่า สิ่งที่นางสาวพรรณิการ์อ้างไม่เป็นความจริง เป็นการให้ร้ายรัฐบาล "กรณีที่มีการแถลง ระบุรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว. กลาโหม อาจมีส่วนเกี่ยวข้องคดีทุจริต 1MDB ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เป็นการกล่าวหาให้ร้ายทำให้สังคมสับสน และขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังพิจารณาจะดำเนินคดีทางกฎหมาย และหลังจากนี้จะประสานกับหน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้องเพื่อชี้แจงอย่างเป็นทางการต่อไป" นางนฤมล เขียนข้อความบนเฟซบุ๊กแฟนเพจส่วนตัว ด้านนางสาวพรรณิการ์ วานิช อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่กล่าวแก่สื่อมวลชนหลังทราบคำชี้แแจงขจากรัฐบาลว่า รู้สึกผิดหวังกับท่าทีของนายกรัฐมนตรี "ถ้าจะบอกว่าเราพูดไม่จริง ก็ให้โชว์หลักฐานมาเลย เพราะเราบอกว่า ท่านอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เราโชว์หลักฐานว่า ทำไมเราจึงคิดเช่นนั้น มีหลักฐานอะไรบ้างที่ทำให้เราเชื่อได้ว่า ท่านอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แต่สิ่งที่ท่านให้กลับมา กลับเป็นการขู่ว่าจะฟ้องร้อง… คนไทยมีสิทธิต้องรู้ความจริงว่า รัฐบาลของเขาไปทำอะไรไว้บ้าง ถ้าไม่มั่นใจคงไม่มีแถลงข่าว เราไม่นิยมการโกหกใส่ร้ายคนอื่นอยู่แล้ว” นางสาวพรรณิการ์กล่าว ภาพจาก แฟนเพจคณะอนาคตใหม่ #TheIsaander #Isaan #Isaannews #อีสานเด้อ #อีสาน #ข่าวอีสาน #ดิอีสานเด้อ #ตู่ #นายก #1MDB #ทุจริตไหมไม่รู้ — at สัปปายะสภาสถาน รัฐสภา.