ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ผู้คนต่างตกอยู่ในภาวะยากลำบาก ทั้งรายได้ที่ลดลง หรือการถูกเลิกจ้าง แต่ยังมีน้ำใจอันดีของพลเมืองร่วมจังหวัดอุดร ที่มีจิตอาสา บริจาควัตถุดิบ และทำอาหารแบ่งปันแก่ผู้จำเป็นในช่วงเวลาวิกฤตนี้ โดยเป็นการร่วมกันของห้างร้าน และคนอุดรหลากหลายสาขาอาชีพ
เรามาถึงร้านอาหารเก่าแก่แห่งหนึ่งในซอยเจ้าพระยา
ชื่อว่าร้าน ‘คี้เจริญ’ ซึ่งเปิดขายอาหารตามสั่งข้าวขาหมูในตอนกลางวัน และขายหอยทอดในช่วงเย็น
จนกระทั่งเมื่อไม่กี่วันมานี้ ช่วงเวลาหกโมงเย็น ได้มีผู้คนมายืนต่อแถวกันกลางถนน และมีรถสัญจรไปมาคับคั่งผิดหูผิดตา ผู้เขียนจึงได้ไปยืนสังเกตการณ์และพบกับ อาเฮีย สุพัฒน์ ผดุงกิจนิรันดร์ ผู้เป็น ‘ตัวแทน’ ในการแจกอาหารครั้งนี้ และไม่ใช่แค่ครั้งเดียวแต่แจกมาแล้วเป็นสัปดาห์
ช่วยเล่าถึงที่มาที่ไปให้ฟังหน่อยครับ? สุพัฒน์ ผดุงกิจนิรันดร์: เห็นคนตกงานเยอะ พิษจากเศรษฐกิจและผลกระทบจากโควิด คุณปรัชญา เจ้าของโรงสีศรีไทยใหม่ ริเริ่มโครงการแจกข้าวให้ผู้เดือดร้อน ส่วนร้านคี้เจริญเป็นผู้ร่วมกับโรงสีศรีไทยใหม่ เราเป็นคนทำข้าวร้อน กับร้อน แจกให้คนที่เดือดร้อน
เริ่มแจก หกโมงเย็น ทุกวัน เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม สิ้นสุด 12 เมษายน ถ้าถึง 12 แล้วก็อาจจะต่ออีก ตอนนี้กำลังรอดู จะสรุปว่าจะเป็นยังไงต่อ
เห็นที่แจกนอกจากอาหารปรุงสำเร็จแล้ว ยังมีของอื่นๆ ด้วย? สุพัฒน์ ผดุงกิจนิรันดร์: มีผู้ร่วมด้วยช่วยกัน ก็มีบ้านวิศวะ ซึ่งเป็นธุรกิจรถเครนให้เช่า เป็นญาติพี่น้องกับทางผม พอทางเราแจกหมด เขาก็จะสมทบด้วย มีอาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรค
นอกจากบ้านวิศวะที่มาร่วมก็ยังมีธุรกิจอื่นอีก เช่น ผลิตภัณฑ์ เสื้อยืดเด็กเด็ก มีคลินิกทันตแพทย์ จิตบรรจง ร่วมทำเฟสชิลด์ (หน้ากากป้องกันทั้งใบหน้าแบบใส) มีห้างเซฟมาร์ทมาร่วมกันแจกน้ำดื่ม ก็คือเราแจกข้าวพร้อมกับ บ้านอื่นก็มาร่วมบุญกัน ผู้เป็นตัวหลักในการให้วัตถุดิบ เป็นโรงสีข้าวศรีไทยใหม่? สุพัฒน์ ผดุงกิจนิรันดร์: ใช่ครับ โรงสีศรีไทยใหม่ ให้การสนับสนุน ข้าว น้ำ และเงินทุน กับข้าวที่เราไปจ่ายตลาดก็เป็นศรีไทยใหม่ เป็นผู้สนับสนุนใหญ่ให้เงินเรามา
กับข้าวแต่ละวันมีอะไรบ้าง? สุพัฒน์ ผดุงกิจนิรันดร์: อาหารแต่ละวันจะไม่ซ้ำกัน มีกะเพรา ผัดพริก พริกแกง ไก่ผัดขิง คะน้าผัดไก่ ข้าวกับปลากระป๋อง ไข่ต้มกับปลากระป๋อง เพิ่งจะมาเริ่มซ้ำก็ตอนทำพริกแกงวันนี้ล่ะครับ บางวันถ้าไม่มีอะไรให้ทำก็จะแจกข้าวกับปลากระป๋อง หรือไข่ต้ม . ช่วงเวลาใกล้หกโมงเย็น คนจะเริ่มมากันแล้ว พอประมาณได้ไหมว่ากินเวลานานเท่าไหร่? ช่วงห้าโมงเย็นคนก็เริ่มมาต่อแถว หกโมงเป๊ะเราแจกเลย ครึ่งชั่วโมงก็แจกหมดแล้ว ประมาณ 180-200 กล่องต่อวัน อาหารสดหมดแล้วก็จะให้เป็น มาม่า 2 ซอง ปลากระป๋อง น้ำดื่ม ให้ในกรณีที่ข้าวกล่องหมดแล้ว ซึ่งเป็นส่วนของบ้านวิศวะ
คนที่มารับอาหาร สังเกตเห็นใครบ้างครับ? สุพัฒน์ ผดุงกิจนิรันดร์: มีกู้ภัยก็มี อย่างดับเพลิงเมื่อกี๊เขาก็มาช่วยผม เราก็ให้น้ำเขาไปกิน คนทำอาชีพสามล้อเครื่อง คนชาวบ้านในสลัม ผู้ที่เดือดร้อน คนทำงานแถวนี้ ถ้าไม่มี เราแจกให้เลย เราไม่หวงของ ถึงเราจะมีป้ายเขียนว่า สำหรับคนที่เดือดร้อนจริงๆ แต่ถ้ามีใครอยากได้ เราก็ให้เขา มีเรื่องอะไรที่เราประทับใจ ที่เราได้เห็น? สุพัฒน์ ผดุงกิจนิรันดร์: ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนะครับ จากผู้กำกับ พ.ต.อ. อารีย์ สินธุรา ส่งเจ้าหน้าที่จราจรมาช่วยดูแลการจราจรบนถนน อำนวยความสะดวกให้ ขอบคุณเจ้าหน้าที่หลายๆ ท่าน แล้วก็มี ดร. หรั่ง นายกสมาคมกีฬาจังหวัดอุดรธานี บางทีก็มามอบหน้ากากอนามัยให้
ปกติเฮียสุพัฒน์ทำอาหารขายที่ร้านอยู่แล้ว ก็ต้องเจียดเวลามา? สุพัฒน์ ผดุงกิจนิรันดร์: ที่บ้านผมขายอาหารอยู่แล้ว เปิดขายตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึง 5 โมงเย็น แต่ช่วงนี้ปิด 4 โมงเย็น พอปิดเราก็เริ่มเตรียมอาหารที่จะทำแจกแล้ว ผัดกับข้าว 5.30 พอผัดกับข้าวเสร็จถึง 6 โมงเราก็แจกเลยครับ แล้วถ้าถึง 12 เมษาจริงๆ แล้วคุยกันว่ายังไงครับ ผู้สนับสนุน ผู้ทำอาหารบริจาค เราจะดูสรุปยอดกันก่อน ว่าเป็นยังไง ความเดือดร้อนเป็นยังไง แล้วอาจจะต่อ แต่ตอนนี้ยังพูดไม่ได้ ต้องสรุปก่อน
ได้คุยกับทางโรงสีข้าวศรีไทยอีกไหมครับ ว่าเขายินดีจะทำต่อไหม?
สุพัฒน์ ผดุงกิจนิรันดร์: ก็คุยกับเถ้าแก่อยู่ครับ ถ้าสมมติว่า 12 ยังไม่พ้น หรือยังเดือดร้อนกันอยู่ อาจจะต่อยาวไปก่อน ยังกำหนดไม่ได้ ต้องดูสถานการณ์ไปก่อน แต่ที่เราเริ่มจนถึงสิ้นสุดก็คือ 12 เมษายน แล้วถึงวันนั้นเราจะมาสรุปกันอีกทีครับ ว่าจะเริ่มไปต่อ
Text & Photo: พิรุณ อนุสุริยา
Comments