top of page
Writer's pictureThe Isaander

นักศึกษาชุมนุมระลึกถึงผู้ลี้ภัย ตำรวจปฏิเสธรู้เห็น อุ้มวันเฉลิม ที่กัมพูชา




ในช่วงเย็นของวันศุกร์ สหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษาแห่งประเทศไทย ได้จัดกิจกรรมรำลึกถึงผู้ลี้ภัยทางการเมืองในชื่อกิจกรรม “ทวงความเป็นธรรมให้วันเฉลิม และผู้ลี้ภัยทางการเมืองทุกคน” ที่สกายวอล์ค หน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร โดยกิจกรรมมีขึ้นในเวลา 17.00 -18.00 น. มีการอ่านกลอน ตะโกน และเขียนป้ายข้อความเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับผู้ลี้ภัยทางการเมืองซึ่งหายตัวไป การทำกิจกรรมครั้งนี้มีผู้ร่วมราว 50 คน ท่ามกลางการสังเกตการณ์ของสื่อมวลชน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ


นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิ้น นักศึกษา นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ผู้จัดกิจกรรม เปิดเผยแก่ ดิ อีสานเด้อว่า การรวมตัวครั้งนี้ เพื่อแสดงพลังว่า ประชาชนจะไม่ยอมให้เกิดเหตุการเช่นนี้อีกกลับผู้ที่เห็นต่างทางการเมืองจากรัฐบาล


“ตอนนี้ยังไม่ทราบชะตากรรมของพี่วันเฉลิมว่าเป็นอย่างไร แต่เขาคือคนที่ถูกอุ้มหาย เขาเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมือง แล้วที่ถูกอุ้มหาย ผมคิดว่า เราต้องออกมาแสดงมโนสำนึกให้รัฐบาลเห็นว่า ไม่ควรทำอย่างนี้ ไม่ใช่เฉพาะกับวันเฉลิม แต่กับผู้ลี้ภัยทั้งหมด เราจึงต้องออกมาแสดงพลังให้รัฐบาลเห็นว่าเราไม่เห็นด้วย” นายพริษฐ์ กล่าว



ตำรวจบ่จัก บ่อฮู้ วันเฉลิมอีหยังวะ



วันศุกร์นี้ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ไทยไม่ได้เกี่ยวข้องกับการลักพาตัว นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ หรือ ต้าร์ เสรีชนคนอีสาน ผู้ลี้ภัยทางการเมืองชาวไทย ที่ประเทศกัมพูชาวานนี้ ขณะที่องค์กรสิทธิมนุษยชนเรียกร้องให้ รัฐบาลกัมพูชาเร่งดำเนินการตามหาตัวนายวันเฉลิมโดยเร็วที่สุด


พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ทราบข่าวการลักพาตัวนายวันเฉลิมจากสื่อ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุที่เกิดขึ้น


“เท่าที่ทราบเขาเป็นคนที่มีหมายจับ พ.ร.บ. คอมฯ หมายออกปี 61 ไม่ทราบว่า ใครอุ้มไป สำหรับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้ต้องหาที่หลบหนีคดีไปต่างประเทศ เราใช้กลไกที่มีอยู่ ประสานงานปกติอยู่แล้ว เราปฏิบัติกับผู้ต้องหาทุกคนเท่ากันไม่ได้เลือกปฏิบัติ แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าประเทศนั้นจะดำเนินการอย่างไร เบื้องต้นไม่พบข้อมูล หมายจับคดี 112 ” พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าว



องค์กรสิทธิจี้ กัมพูชา และไทยเร่งชี้แจง ไม่ต้องขำ



ในวันเดียวกัน ฮิวแมนไรท์วอทช์ ได้ออกแถลงการณ์ เร่งรัดให้รัฐบาลกัมพูชาสอบสวนการหายตัวไปของนายวันเฉลิม และเปิดเผยข้อมูลสู่สาธารณะโดยเร็วที่สุด และระบุว่า ฮิวแมนไรท์วอทช์ห่วงใยเรื่องความปลอดภัยของนายวันเฉลิมมากที่สุด


“การลักพาตัวนักเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างอุกอาจบนถนนในพนมเปญครั้งนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่ทางการกัมพูชาต้องชี้แจง รัฐบาลกัมพูชาต้องรีบค้นหาตัววันเฉลิม และดูแลความปลอดภัยของเขา รัฐบาลกัมพูชามีหน้าที่สืบสวนว่าเกิดอะไรขึ้นกับวันเฉลิม ซึ่งถูกลักพาตัวโดยการใช้อาวุธปืนในเมืองพนมเปญ รัฐบาลต่างประเทศ รวมถึงแหล่งทุนต่างๆ ควรกดดันรัฐบาลกัมพูชาให้ดำเนินทุกวิถีทางเพื่อหาตัววันเฉลิม หรือผู้ร่วมลักพาตัวเขา” นายแบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชีย องค์กรฮิวแมนไรท์วอทช์ กล่าวในแถลงการณ์


ด้าน แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ออกแถลงการณ์ถึงเรื่องเดียวกันระบุว่า เรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชาเร่งตามหาตัวนายวันเฉลิม และทางการไทยต้องยืนยันว่า นายวันเฉลิมถูกจับตามคำร้องขอของตนหรือไม่


“ทางการกัมพูชาต้องดำเนินการเรื่องนี้โดยด่วนที่สุด หากพบตัวเขา ต้องไม่ส่งตัวกลับประเทศไทย เนื่องจากเสี่ยงที่จะถูกประหัตประหาร หากวันเฉลิมถูกควบคุมตัวอยู่ ทางการกัมพูชาต้องยืนยันว่า เขาอยู่ในการควบคุมของทหารหรือตำรวจ หากเขาอยู่ภายใต้การควบคุมตัวของรัฐ เราขอให้ทางการประกันว่า ได้มีการควบคุมตัวเขาในสถานที่ควบคุมตัวอย่างเป็นทางการ และอนุญาตให้เขาสามารถติดต่อทนายความอิสระ เข้าถึงบริการทางการแพทย์และติดต่อครอบครัวได้ทันที” นายเดวิด กริฟฟิท ผู้อำนวยการ สำนักงานเลขาธิการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าว


“นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พลเมืองไทยหายตัวไป หลังแสดงความเห็นทางการเมือง วันเฉลิมมักแสดงความเห็นผ่านโซเชียลมีเดีย การหายตัวไปอย่างกะทันหันของเขาในเหตุการณ์ที่รุนแรง เป็นเรื่องที่น่าตกใจอย่างยิ่ง” นายเดวิดระบุ ในแถลงการณ์



วันเฉลิม : โอ้ย! หายใจไม่ออก #refugeelivematter #saveวันเฉลิม



วานนี้ นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ ชาวจังหวัดอุบลราชธานี อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคดีฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. ในปี 2557 คดีความผิดตามพระราชบัญญติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์(พ.ร.บ.คอมฯ) และคดีที่เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับการหมิ่นเบื้องสูง ซึ่งหลบหนีการจับกุมของรัฐบาลไทยไปอยู่ในประเทศกัมพูชา ถูกลักพาตัวโดยกลุ่มบุคคลติดอาวุธ จากหน้าคอนโดมิเนียมในกรุงพนมเปญ เมื่อเวลาประมาณ 16.45 น. การลักพาตัวนายวันเฉลิม ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์-วิจารณ์อย่างหนักบนอินเตอร์เน็ต โดยเกิด #saveวันเฉลิม บนทวิตเตอร์ ที่มีผู้เขียนข้อความด้วย #ดังกล่าว ถึงกว่า 5 แสนครั้ง


ต่อเหตุที่เกิดขึ้น น.ส. สิตานันท์ สัตย์ศักดิ์สิทธิ พี่สาวของนายวันเฉลิม เปิดเผยว่า นายวันเฉลิมถูกลักพาตัวขณะคุยโทรศัพท์อยู่กับตนเอง โดยนายวันเฉลิมกำลังเดินจากคอนโดมิเนียม ซึ่งเป็นที่พักส่วนตัวเพื่อไปซื้ออาหารมารับประทาน


“คุยน้องตอนที่น้องโดนจับตัว ต้าร์(ชื่อเล่นของวันเฉลิม) ร้องว่า โอ้ย หายใจไม่ออก แล้วสายก็ตัด ปกติ คุยกับน้องทางไลน์เป็นประจำทุกวัน คุยเรื่องชีวิตทั่วไป และคุยเรื่องงานธุรกิจ เตือนน้องแล้วว่า ให้หยุดคุยเรื่องการเมือง และหันมาทำธุรกิจ ดูเหมือนว่า ต้าร์จะยอมทำตาม และเป็นการทำให้ผ่อนคลาย ลดการระมัดระวังตัวลง” น.ส. สิตานันท์ กล่าว


น.ส. สิตานันท์ ระบุว่า หลังเกิดเหตุ ตนเองเข้าใจว่า นายวันเฉลิมประสบอุบัติเหตุ แต่ให้หลัง 30 นาที ได้โทรกลับไปหานายวันเฉลิม กลับติดต่อไม่ได้ เมื่อสอบถามไปหาเพื่อนของนายวันเฉลิมจึงทราบว่า นายวันเฉลิมหายตัวไป โดยขณะที่นายวันเฉลิมถูกนำตัวขึ้นรถ มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของคอนโดมิเนียมพยายามเข้าช่วยเหลือแต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากกลุ่มคนที่ลักพาตัวนายวันเฉลิมมีอาวุธปืน ซึ่งต่อมามีการเผยแพร่ภาพรถที่ใช้ลักพาตัวนายวันเฉลิมบนสื่อสังคมออนไลน์



วันเฉลิมคือใคร ไม่ใช่อยู่บำรุงแน่ๆ



นายวันเฉลิม มีชื่อเป็นหนึ่งในบุคคลที่ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เรียกเข้าไปรายงานตัวหลังการทำรัฐประหารในปี 2557 แต่นายวันเฉลิมไม่ได้ไปรายงานตัวตามคำสั่งดังกล่าว จึงถูกออกหมายจับในวันที่ 8 มิถุนายน 2557 ก่อนที่ต่อมาจะมีข้อมูลว่า นายวันเฉลิมหลบหนีออกจากประเทศไทยไปยังประเทศลาว ต่อมาวันที่ 25 มิถุนายน 2561 พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ได้จัดแถลงข่าวกล่าวหาว่า นายวันเฉลิมเป็นผู้กระทำผิดตาม พ.ร.บ. คอมฯ จากการเขียนข้อความบิดเบือนใส่ร้ายรัฐบาล ผ่านเฟซบุ๊คแฟนเพจ “กูต้องได้ 100 ล้าน จากทักษิณแน่ๆ” โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่า ในขณะนั้น นายวันเฉลิมอาศัยอยู่ในประเทศกัมพูชา และอาจมีการติดตามจับกุมตัวนายวันเฉลิมเพื่อมาลงโทษ ต่อมามีการเปิดเผยจากสำนักข่าวอิศราว่า นายวันเฉลิมเป็นหนึ่งในผู้ถูกออกหมายจับในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 แต่ไม่ระบุว่า กระทำผิดอย่างไร


ก่อนถูกลักพาตัวหนึ่งวัน นายวันเฉลิมได้อัดคลิปวิดีโอพาดพิงถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยระบุว่า คนที่ตำหนิ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ใช่คนชังชาติ แต่ตำหนิเพราะเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ บริหารประเทศไม่ได้


“ไผที่เขาด่ากันอยู่ คุมื้อนี้ เขาบ่ได้ด่าประเทศซาติ เขาด่าที่มึงบริหารประเทศบ่ได้ มึงมันซัว มึงมันโง่ มึงมันดีแต่ปาก บักประยุทธ์ โอ้ยบักนักกู้แห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา มึงบริหารบ่ได้ คนเขาก็ด่ามึง(ใครที่เขาด่ากันทุกวันนี้ เขาไม่ได้ด่าประเทศชาติ เขาด่าที่คุณบริหารประเทศไม่ได้ ไม่ฉลาด ดีแต่ปาก คุณประยุทธ์ นักกู้แห่งลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา คุณบริหารไม่ได้ คนเขาก็เลยด่า)” ตอนหนึ่งของคลิปวิดีโอระบุ



คสช. ปิดปากคุณได้ ก็จะปิดปาก เดี๋ยวคุณรับฝากความรักจากใคร



ทั้งนี้ หลังการยึดอำนาจของ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในปี 2557 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รวมรวมข้อมูลระบุว่า มีประชาชนอย่างน้อย 104 รายที่ต้องหนีออกนอกประเทศไปเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมือง เนื่องจากถูกไล่ล่า ขณะที่ มีผู้ลี้ภัยชายไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านต้องหายตัวไปแล้ว 9 คนเมื่อรวมนายวันเฉลิม ซึ่งประกอบด้วย 1. นายอิทธิพล สุขแป้น (ดีเจซุนโฮ) 2. นายวุฒิพงษ์ กชธรรมคุณ (โกตี๋) 3. นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์(แซ่ด่าน) 4. นายชูชีพ ชีวะสุทธิ์ 5. นายสยาม ธีรวุฒิ 6. นายกฤษณะ ทัพไทย 7. นายชัชชาญ บุปผาวัลย์ (สหายภูชนะ) และ 8. นายไกรเดช ลือเลิศ(สหายกาสะลอง) โดยสองรายหลังสุด หายตัวไปพร้อมกับนายสุรชัย และถูกพบเป็นศพลอยมาติดตลิ่งแม่น้ำโขงเขต จ.นครพนม ในสภาพถูกผ่าท้องและยัดด้วยแท่งปูน


โครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLaw) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ที่ คสช. ยึดอำนาจ มีคนถูกเรียกไปรายงานตัว/เยี่ยมบ้าน อย่างน้อย 1,349 คน, มีคนถูกจับกุมอย่างน้อย 625 คน, มีคนถูกตั้งข้อหา มาตรา 112 อย่างน้อย 98 คน, มีคนถูกตั้งข้อหามาตรา 116 อย่างน้อย 119 คน, มีคนถูกตั้งข้อหาชุมนุมเกินห้าคน อย่างน้อย 421 คน และพลเรือนต้องขึ้นศาลทหาร อย่างน้อย 1,886 คน โดยสถิติดังกล่าวนับจนถึงวันที่ 23 กันยายน 2562


ไอลอว์ยังได้ระบุว่า ร.ท.หญิงสุณิสา เลิศภควัต อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย, นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, นายวัฒนา เมืองสุข อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย, นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีต ส.ส. หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และนายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เคยถูกเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีด้วยข้อหาตามความผิดใน พ.ร.บ.คอมฯ คอมพิวเตอร์มาแล้วเช่นกัน



ขอบคุณข้อมูลและการประสานงานจาก พี่กุ้ย-ศรายุทธ ตั้งประเสริฐ ประชาไท Prachatai.com

ขอบคุณภาพจาก พี่แบงค์-ปฏิภัทร จันทร์ทอง Realframe

และข้อมูลจาก benarnews.org


#TheIsaander #Isaan #Isaannews #อีสานเด้อ #อีสาน #ข่าวอีสาน #ดิอีสานเด้อ #112 #ต้าร์ #เสรีชนคนอีสาน #แอดมิน #เพจ #กูต้องได้100ล้านจากทักษิณแน่ๆ #โดนอุ้ม #ใน #กัมพูชา #ขอให้ปลอดภัย


ติดตาม ดิ อีสานเด้อ ในช่องทางต่างๆได้ดังนี้


เว็บไซต์ https://www.theisaander.com/


แฟนเพจ https://www.facebook.com/theisaander/


อินสตาแกรม https://www.instagram.com/theisaander/


ทวิตเตอร์ https://twitter.com/TIsaander


31 views0 comments

Comentários


bottom of page