เรื่องและภาพโดย : พิรุณ อนุสุริยา
ในอาคารที่พักอาศัย ย่อมปรากฏผู้หญิงวัยกลางคนที่รับงาน "แม่บ้านคอนโด" บุคคลในเครื่องแบบผู้รักษาความสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย งามตาแก่ผู้พักอาศัย
แต่ชีวิตอันนอกเหนือจาก ถูพื้น เช็ดกระจก ดูแลความสะอาดของพื้นที่ส่วนกลาง น้อยคนนักที่จะรู้ความเป็นมาเป็นไป เราจึงได้ขอสัมภาษณ์ คำเกี้ยง สะหวัดดี (คนกลางภาพ) ชาวลาวพลัดถิ่น ผู้เข้ามาเมืองไทยเพื่อขายแรงงาน
จากคนงานกรีดยางที่ทุ่งสง ผันตัวมารับงานแม่บ้านห้างสรรพสินค้าใน กทม. เมื่อเจอกับพิษโควิดก็ย้ายสายงานมาเป็นแม่บ้านคอนโด เราได้พูดคุยกับคำเกี้ยงถึงไลฟ์สไตล์ส่วนตัว การจะกินอยู่อย่างไรให้พอเพียงกับค่าจ้างรายวัน ในดินแดนที่ค่าครองชีพกับรายได้นั้นสวนทางกันอย่างถึงที่สุด
“สัมภาษณ์อาร้ายยยย...ป้าไม่รู้อะไรหรอก ไปสัมภาษณ์คนอื่นพู่น ป้าบ่รู้ไหนดอก”
นี่คือคำโต้ตอบแรกหลังจากเราเริ่มขอสัมภาษณ์ ขณะที่คำเกี้ยงกำลังรดน้ำต้นไม้บริเวณสวนหน้าคอนโดแห่งหนึ่งย่านนานา เมื่อเวลาถูกคนทั่วไปถามว่า ป้าเป็นคนที่ไหน? คำเกี้ยงมักจะเลือกตอบว่า “คนอีสานจ้า” เพราะลาว (เวียงจันทน์) กับอีสานใช้ภาษาพูดไม่แตกต่างกัน แต่ถ้าเป็นลาวทางใต้จะพูดไปอีกสำเนียงภาษาหนึ่ง แต่โดยเนื้อแท้เธอผู้นี้คือ “คนซนซาติลาว”
อีสานเด้อ :พอทราบมาว่าเมื่อก่อน พี่คำเกี้ยงอยู่ที่เวียงจันทน์ ทำไมถึงได้มาเมืองไทยได้ครับ
คำเกี้ยง : เออ...จั๊กหล่ะ โลกมันกลม โลกมันกล๊มกล่ม ฮ่าๆๆ ซาติแล้วรึแม่นเกิดอยู่นี่บ่ หรือจังได๋ ไปเกิดผิดม่องบ่
อีสานเด้อ : ผมหมายถึงทำไมถึงได้มาประเทศไทย คือมีคนชวนมาทำงานที่กรุงเทพเหรอ
คำเกี้ยง : อ๋อ มีผัวเป็นคนไทย คนอุดรฯแล้วก็มีหลานก็ชวนมาทำงาน
อีสานเด้อ : คือตอนแรกเริ่ม เรายังไม่ได้มาทำงานเมืองไทย แต่ได้ผัวก่อนเหรอ
คำเกี้ยง : จ้า เขาไปเที่ยวประเทศนั้น (ลาว) เขาก็เลย ไปเฮ้ดจังได๋พู่นล่ะ กะเลยเดินมา (เข้าประเทศไทย)ก็เลยคุยกัน ถืกใจกัน จังสี้บ่ ฮ่าๆๆ
อีสานเด้อ : อ๋อ ก็คือพอเป็นแฟนกัน ก็เลยถูกชวนให้มา ว่าคำเกี้ยงมาทำงานอยู่กรุงเทพไหม แบบนี้เหรอครับ
คำเกี้ยง : ตะกี้กรีดยางมาก่อน อยู่ภาคใต้นู่น อยู่ทุ่งสง จำไม่ได้แล้วเข้ามาไทยปีไหน แต่ลูกก็ (อายุ) ได้ 13 ปีแล้ว ป้าอยู่ไทยนี่มา 20 กว่าปี
...ต่อมายางมันถืก ตะกี้กรีดยางอยู่ทุ่งสง ตะกี้ตอนนั้นก็ทักษิณเป็นนายก ยางมันแพง ก็เลยพากันกรีด แต่ว่าเดี๋ยวนี้มันถูกเลยเซาเขาว่าเฮ็ดงานกรุงเทพ ได้วันท่อนั้นท่อนี้ ก็เลยมาลองเบิ่ง
อีสานเด้อ : เริ่มแรกพอมากรุงเทพ เริ่มอาชีพเป็นแม่บ้านเลยไหม
คำเกี้ยง : เออ มาพาลาเดียมเลย (ห้างสรรพสินค้าและโรงแรมพาลาเดียม-ย่านประตูน้ำ) อยู่บริษัทนี้เลย บ่ได้ย้ายไปไหน เป็นแม่บ้าน ทำความสะอาดห้องน้ำ และก็ถูพื้นดูหยังไป พอหมดเวลาก็ออก
อีสานเด้อ : แล้วตอนที่ทำอยู่ห้าง ตรงส่วนกลางของห้างได้ทำความสะอาดด้วยไหมครับ
คำเกี้ยง : มันมีจุดไผจุดมัน คือป้าอยู่แต่ในห้องน้ำ ป้าบ่ได้ไปแบบพื้นที่แนวนั้นแนวนี้ ป้าก็แบบ...เข้าสิบโมงเลิกสามทุ่ม อีกพวกที่เขาเลิกห้าโมงก็ออกก่อน ส่วนป้าก็ออกสามทุ่ม แล้วกลับบ้าน บ้านเช่าป้าอยู่ตลาดดินแดงว่าอยู่พาลาเดียมได้ซักสามปี
อีสานเด้อ : แล้วพอมีโควิดปุ๊บ เขาก็ให้มาทำที่คอนโดแทน
คำเกี้ยง : ค่ะ เฮ็ดคอนโด คอนเด่ ไปจังสี้ล่ะ เพราะว่าพวกแม่บ้านโรงแรมมันไม่มีลูกค้าเข้า เพราะโควิด
อีสานเด้อ : แล้วคนที่มาทำงานแม่บ้านคอนโดด้วยกันตอนนี้ ใช่คนที่ทำงานพาลาเดียมด้วยกันไหม
คำเกี้ยง : บ่มาจากหลายๆ ที่ มีคนนึงกะมาจากโรงพยาบาลตำรวจ มาหลายที่มาผสมกันจังสี้ แล้วก็มาฮักแพงกัน หมู่เพื่อน เป็นเพื่อนกันนั่นแหละอยู่นี่บ่มีเพื่อนคนลาว กะมีเพื่อนที่เฮ็ดงานนี่แหละ จั๊กลูกร้อยพ่อพันแม่มาเจ๊อะกัน
อีสานเด้อ : เลิกงานแล้วเดินทางกลับยังไงครับ
คำเกี้ยง : กะเดิน บางครั้งกะขี่รถเมล์ บางครั้งกะนั่งเรือลงพาลาเดียม และกะเดินไปขี่รถเมล์
อีสานเด้อ : ช่วงพักเที่ยง เรากินข้าวกันยังไงครับ
คำเกี้ยง : ต้มมาม่า กับห่อข้าวมากิน กินกันในห้องแม่บ้าน เขาบ่มีเลี้ยงข้าว เฮาซื้อเอง ตอนอยู่ห้างบางครั้งเขามีเลี้ยงปีใหม่จังสี้ขะเจ้ากะบอกกัน หัวหน้าเขาจะมีเลี้ยงเด้อ มีข้าวปุ้นบ่ ตำบักหุ่งบ่ อาหารอีสานจังสี้นี่ล่ะ สิแตกพวกนี่ล่ะ ก็ไม่มีอันได๋มากมายดอก
[อาหารจานโปรดของคำเกี้ยงคือ แกงหน่อไม้และตำบักหุ่ง ซึ่งเป็นอาหารที่มีไม่ต่างจากที่ประเทศลาว แต่เมื่ออยู่ที่กรุงเทพ ด้วยข้อจำกัดทางรายได้ คำเกี้ยงมักจะเลือกกินแต่มาม่า โดยนำมาม่าราคา 6 บาทสองซองเติมน้ำร้อนต้มเป็นแกงแล้วกินกับข้าวเปล่า เครื่องปรุงหลักจะเป็นน้ำปลากับผงชูรส แจ่วต่างๆรับประทานร่วมกันกับเพื่อนร่วมงานอีกสองคน
ส่วนน้ำดื่มเนื่องด้วยละแวกบริเวณที่มาทำงาน ไม่มีตู้กดน้ำ จึงทำให้ต้องแบกแกลลอนน้ำมาเอง (ที่เติมน้ำจากตู้กดลิตรละบาทมาแล้ว) โดยแบกขึ้นรถเมล์มาทิ้งไว้ยังที่ทำงาน เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย กว่าการซื้อน้ำดื่มขวดจากร้านค้าที่ราคาราวๆ 40 บาทต่อหนึ่งแกลลอน]
...ตอนอยู่พาลาเดียม ยังพอมีของกินม่องล่าง พอได้ซื้อกิน แต่อยู่นี่บ่มีอะไรได้ซื้อกิน อยู่พาลาเดียมยังอยู่ในห้าง อยู่แอร์เหมิดมื่อ แต่อยู่นี่มันร้อน (เวลาไปทำความสะอาดบนดาดฟ้าคอนโด)
อีสานเด้อ : ถามเรื่องรายได้ได้ไหม
คำเกี้ยง : รายได้กะวันละ 350 เขาให้เป็นรายวัน แต่เงินออกเป็นรายเดือน แต่ว่ามาเฮ็ดงานให้เป็นรายวัน มาวันได๋ก็ได้ ไม่มาก็ไม่ได้ วันหยุดก็นอนอยู่ห้องคิดว่า 350 ก็อยู่ไป๋ ถ้ามันอยู่บ่ได้ เฮากะกลับบ้าน ถ่อนั่นตั๋ว
อีสานเด้อ : ก็แสดงว่าถ้าเราไม่ได้เอาเงินไปใช้จ่ายอะไรฟุ่มเฟือย เราก็มีเงินเก็บ เพราะอย่างปกติ อยู่กรุงเทพเราก็คงไม่ได้ไปนั่งแท็กซี่บ่อยใช่ไหมเพราะถ้านั่งแท็กซี่เริ่มมามันก็ 35 บาทแล้ว
คำเกี้ยง : หึ ไม่เคยนั่งเพราะว่าค่าแรงเราส่ำนี่ จะไปนั่งแท็กซี่ โอ้ยตาย...(ลากเสียงยาว) ถ้านั่งไม่ได้เหลือเงินไว้กินอะไรเลย ขนาดนั่งรถเมล์ไปกลับก็สี่รอบ ก็ยังจะบ่พอแล้ว
...เดินทางตอนเช้ามาแต่ห้อง (ดินแดง) ก็ต้องมาลงบิ๊กซี (ราชดำริ) แล้วก็มาลงที่นี่อีก (นานา) แล้วก็เดินจากปากซอยเข้ามา ตอนแลงก็ยางขึ้นไปขี่เรืออีก ขี่รถอีก
[ในการเริ่มต้นอาชีพแม่บ้าน จะต้องสวมเครื่องแบบของบริษัท โดยบังคับซื้อชุดแรกจะมีมูลค่า 600 บาทเมื่อเริ่มต้นทำงานจะมีการหักค่าชุดจากเงินเดือน 2 ครั้ง เป็นจำนวนครั้งละ 300 บาทแต่ถ้าหากทำงานแม่บ้านอยู่จนครบ 1 ปี บริษัทจะแจกเครื่องแบบให้ฟรี 1 ชุด ซึ่งคำเกี้ยงจะสวมชุดลำลองจากบ้านมาก่อน แล้วค่อยมาเปลี่ยนเป็นชุดเครื่องแบบเมื่อถึงที่ทำงาน]
อีสานเด้อ : แล้วมีสวัสดิการรักษาพยาบาลไหม
คำเกี้ยง : มี โรงบาลสมิติเวช เขาออกให้นั่นเด้ บ่ทันได้ไปใช้สิทธิหรอก เพราะยังไม่ได้ป่วย ไม่ได้เป็นอะไร
อีสานเด้อ : อยู่คอนโดในทีมแม่บ้านทำงานอะไรบ้างครับ เท่าที่เห็นมีถูพื้น ทั้งชั้นบน ชั้นล่าง
คำเกี้ยง : เก็บขยะนำ แต่พี่อีกคนเขาจะเช็ดกระจก รอบเช้ามันจะแบ่งกันสองแบบ คนนึงถูพื้นไป ส่วนป้าจะอยู่ห้องน้ำตลอด เหมือนตอนอยู่พาลาเดียมก็ห้องน้ำตลอด ฮ่าๆๆ
อีสานเด้อ : ตอนโควิดระบาด เรากลัวไหม ว่างานของเรา คือการทำความสะอาดจะเสี่ยงโดนเชื้อโรค
คำเกี้ยง : เขาป้องกันอยู่ มีปิดปาก ใส่ถุงมือ เวลาทำงานเขาไม่ให้พูด ไม่ให้คุยกับใคร แล้วก็ให้ล้างมือ เช็ดแอลกอฮอล์บ่อยๆ
อีสานเด้อ : ที่บ้านเกิดประเทศลาว มีครอบครัวญาติพี่น้องไหมครับ
คำเกี้ยง : มี พ่อเสียแล้ว อ้ายเสียเบิดแล้ว เหลือแต่แม่กับน้องสาว
อีสานเด้อ : ที่ลาว เรามีแผนการไหมว่าอยากจะกลับไปทำอะไรที่นั่นไหม
คำเกี้ยง : ไม่รู้ ฮ่าๆๆ อยู่ที่นี่ไปก่อน พู่นล่ะ มีเงินมีนู่นนี่ ถึงเมืออยู่บ้านเจ้าของนั่นหล่ะ แต่ตอนนี้บ่คิดว่าจะเก็บเงินหยังหลายหรอก โอ้ย เศรษฐกิจแบบนี้
อีสานเด้อ : แต่แฟนของพี่เป็นคนอุดรไม่ใช่เหรอ
คำเกี้ยง : เออ คนไทย เขาอยากไปอยู่พุ่นก็ได้ เพราะคนไทยอยู่พุ่นก็หลายเด๋ ไปเฮ็ด อั่น...ไปลงทุนลงหยังแนล่ะ ขะเจ้าก็เห็น แต่บ่รู้ว่าขะเจ้าเฮ็ดหยังอ่ะหนา ก็เห็นขะเจ้าพูดไทย ก็ว่า เออคนไทยมาอยู่บ้านเฮาเยอะหนา ขะเจ้าก็ข้ามสะพานเนาะ ข้ามไปข้ามมาแบบเฮาไปถูกต้องมาถูกต้องอย่างสี้หนา
อีสานเด้อ : แล้วแฟนพี่คำเกี้ยงเขาอยากไปอยู่ด้วยกันที่ลาวไหม หรืออยากให้มาอยู่ที่ไทยด้วยกัน
คำเกี้ยง : จ้า เพิ่นบอกให้ตัดซนซาติมาอยู่นำลูกชายนี่แหละ แบบมาอยู่เมืองไทยจังสี้นะ เพราะว่าอยู่เมืองลาว มันเจริญแล้ว ที่มันแพง แล้วเฮาบ่มีเงิน เฮาเป็นคนทุกข์คนยาก พี่น้องทางผัวก็บอกให้ตัดซนซาติมาอยู่ผิ่ มาแบบถืกต้องตามกฏหมาย แบบว่า....เฮ็ดเอกสารอีหยังมา...แบบเป็นคนไทยจังสี้หนา
...บัดนี้เฮามามีแต่บริษัทเพิ่นออกบัตรแรงงานให้จังสี้หนา แล่วเหมิดแล้ว สี่ปี
อีสานเด้อ : หมายถึงว่าตอนนี้ คือได้ตัดซนซาติมาเป็นคนไทยแล้วเหรอ
คำเกี้ยง : ยังไม่ได้เป็น แต่ว่าคือมาเฮ็ดงานอยู่บริษัทนี้ เพิ่นเฮ็ดบัตรแรงงานให้ คือว่าเฮาเข้ามาอย่างสี้ เฮาบ่ได้ย้ายไปนั่นไปนี่ บ่ได้ออกไหน บริษัทเพิ่นก็เลยออกบัตร mouจังสี้หนา
อีสานเด้อ : แสดงว่าย้อนไปตั้งแต่ตอนเราทำงานสวนยาง เราก็ยังไม่ได้มีบัตรไม่มีใบอนุญาตอะไรเหรอครับ
คำเกี้ยง : มีบัตรท่องเที่ยว อืม แบบที่ว่าเฮาก็เที่ยวต่อ แบบลาวเขาไปเที่ยวต่างประเทศ พอกลับมาอยู่ทำงานม่องนี่ เพิ่นก็เฮ็ดให้ถืกต้องตามกฎหมาย
อีสานเด้อ : ถ้าให้เปรียบเทียบระหว่างทำงานสวนยางกับงานแม่บ้าน เราว่าอันไหนดีกว่า
คำเกี้ยง : อันนี้ (แม่บ้าน) แหละดีกั่ว เพราะว่าเฮาเฮ็ดแผ่นยาง แบ่งกับเถ้าแก่ ไม่ใช่ว่าจะได้เป็นของเฮาเองเด้ ยางห้าสิบไร่มันกะได้แต่แค่เท่าไหร่? ตกหมื่น กรีดทั้งวันทั้งคืน จังว่าสิตายเมือย มันอึดหลับอึดนอน ก็เลยว่าบ่ไหวดอก
...อยู่นั่นมาสามปี หลานมันมากะเลยว่า “น้ามาเฮ็ดแม่บ้าน” วันละ 350 ก็หย่ามัน มันบ่อึดหลับอึดนอน จังสี้หนา
[การรับจ้างกรีดยางจะมีอยู่สองแบบ แบบแรกคือ การแบ่งส่วนแบ่ง 60/40 ผู้รับจ้างกรีดจะไม่ต้องออกค่าปุ๋ย แบบที่สองคือ การแบ่งส่วนแบ่ง 50/50 ผู้รับจ้างกรีดยางช่วยออกค่าปุ๋ยกับนายจ้างคนละครึ่ง ส่วนค่าการตัดหญ้าจะแบ่งหน้าที่ โดยให้นายจ้างออกค่าน้ำมันรถ ส่วนผู้รับจ้างเป็นผู้ออกแรงตัดหญ้า ซึ่งแถวทุ่งสงที่คำเกี้ยงไปทำงาน ป่ายางจะอยู่ติดกันกับพื้นที่โรงงานยางเลย]
...เดือนนึงจะได้ขายยางสองเทือ 15 มื่อขายเทือนึงแต่ว่าบางทีเกิดฝนตกต่อกัน อาทิตย์นึงก็ไม่ได้ตัดหรือบางมื่อคือตอนแรกฝนบ่ตก กรีดแล่วแล้ว เพราะปกติกรีดยางพอรอมันเซาย้อยแล้วเฮาจะไปหยอดน้ำกรดแต่ถ้าฝนตกมาก่อน เฮาหยอดน้ำกรดบ่ทัน มันกะไหลถิ่มเหมิด เฮาก็ไม่ได้จั๊กบาท พอเฮาไม่ได้ เขา(นายจ้าง) ก็ไม่ได้คือกัน เพราะฝนที่ตกมันไหลลงหน้ายางไปเหมิดเด้
อีสานเด้อ :แต่อยู่นี่ยังไง วันๆ หนึ่งเราต้องได้ 350 อยู่แล้ว
คำเกี้ยง :เออ อยู่นี่เข้า 8 โมง เลิก 5 โมง หมดเวลา เฮาก็ฮือกลับ ฮ่าๆๆ (หัวเราะร่วน)พอว่าโรคโควิดเข้ามาตอนเฮ็ดอยู่พาลาเดียม สัญญาเช่ามันยังบ่ทันได้เบิด กะได้มาอยู่นี่ (คอนโด) เป็นเดือนที่สอง
อีสานเด้อ :คำเกี้ยงชอบฟังลำบ่
คำเกี้ยง : ซอบไมค์ทองคำเด็ก เด็กน่อยฮ่องเพลง อันนั้นอันนี้ก็มีความสุขเนาะ ได้เวลามาก็มาเฮ็ดงาน เมือห้อง 6 โมงกะเปิดทอระทัดเบิ่งไมค์ทองคำเบิด กะนอนบ่านนี่
อีสานเด้อ : พี่คำเกี้ยงรู้จักอันนี้ไหม วัยรุ่นเขาเล่นกัน tiktok รู้จักไหม?
คำเกี้ยง : ไม่เอา ไม่รู้ ไม่เอาแบบพวกการพนัน ที่บอกได้เงินเยอะ ลงทุน 30 บาท ไม่เอา ไม่ชอบ !
อีสานเด้อ : แต่อย่างน้อยวันที่ 1 กับ 16 ก็ต้องมีลุ้นหวย ได้ซื้อหวยไหม
คำเกี้ยง : หึ สิไปซื้ออยู่ไส หวยไผสิไปขาย เขาอยากวัดรางวัลที่ 1 กะซื้อแต่ล็อตเตอรี่เทือละใบ หมู่เขาพาขะเจ้ามานั่น 12 ล้าน เลขนั่นเลขนี่ข้อยซื้อก็บ่ถืก บุญเฮาบ่ถึง
......
#Isaander #อิสานเด้อ #ดอกหญ้าในป่าปูน #ฝนรินในเมืองหลวง #คุ้ยแจ่วบองกลางมหานครคนรวย #แม่บ้าน #พิรุณ #อำมหิตศิษย์เณรคำ
.
สำนักข่าวโดยคนอีสาน เพื่อคนอีสาน และคนที่ใช้ภาษาไทย
.
สามารถติดตาม The Isaander ได้ในหลายช่องทางดังนี้ เว็บไซต์ www.theisaander.com
เฟซบุ๊คแฟนเพจ facebook.com/theisaander
อินสตาแกรม www.instagram.com/theisaander
ทวิตเตอร์ twitter.com/TIsaander
Comments